พูดถึงงบประมาณสำหรับการไปเที่ยวนี่ยากมาก เพราะแต่ละคนอยากเที่ยวไม่เหมือนกัน มีงบไม่เท่ากัน ถ้าไปกันหลายคนกว่าจะจัดทริปกันจบอาจมีเรื่องกันก่อนไปได้ แต่ถ้าใครไปคนเดียวได้ก็จะง่ายและจัดการได้เร็วเพราะไม่ต้องมาช่วยกันตัดสินใจว่าจะพักที่ไหนดี ว่างตรงกันวันไหน เที่ยวเมืองไหนบ้าง บอกเลยวุ่นวายมาก ยิ่งพาคนอื่นเที่ยวยิ่งเหนื่อย ถ้าใครพูดญี่ปุ่นได้ก็จะถูกฝากความหวังไว้ (หรือบางทีโยนทุกอย่างให้ตรูทำนั่นเอง) เพราะฉะนั้นเราถึงชอบไปคนเดียวบ่อยๆ ว่างเมื่อไหร่ก็ไป อยากไปไหนก็ไป อยากกินอะไรก็กิน มันเสียอย่างเดียวคือไม่มีคนถ่ายรูปให้ แต่แก้ปัญหาด้วยการหัดตั้งกล้องถ่ายเอง ซึ่งมันก็สนุกและเพลินดีนะ^^
สิ่งที่ต้องคิดก่อนที่จะคำนวนงบประมาณคือ
ไปกี่คน การไปคนเดียวข้อเสียคือไม่มีคนช่วยหารค่าห้อง ยกเว้นว่าจะพักแบบ guest house หรือ youth hotel ซึ่งพักรวมกับคนอื่นๆได้
ไปกี่วัน จำนวนวันยิ่งมากก็ยิ่งต้องจ่ายค่าที่พักมากขึ้น
ไปเมืองไหนบ้าง ประเทศญี่ปุ่นมีข้อดีมากๆสำหรับนักท่องเที่ยวคือจะมีตั๋วเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะที่เรียนว่า Japan rail pass ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นยังต้องอิจฉา ซึ่งอาจจะทำให้เราประหยัดได้หากเราจำกัดโซนการเดินทาง ขอแปะลิงค์ของ h.i.s เค้าทำไว้ดีแล้วเข้าไปอ่านกันได้จ้า https://www.hisbkk.com/th/japan_rail_pass.php
ภาพจาก http://www.mytripolog.com/2012/08/big-size-detailed-japan-map-and-flag/
ซึ่งการเลือกโซนเที่ยวนั้นจะมีผลต่องบประมาณในการเที่ยวตรงค่าตั๋วเครื่องบินและค่าโรงแรมด้วย ซึ่งแน่นอนว่าที่โตเกียวจะแพงที่สุด เมืองอื่นๆก็จะถูกลงตามความนิยม ซึ่งเมืองที่คนไทย(ทัวร์)นิยมไปก็จะมี ฮอกไกโด โตเกียว (เมืองหลวง) นาโกย่าโอซาก้า เกียวโต โกเบ ฮิโรชิมะ ฟุกุโอกะ และ นากาซากิ
พอเราตกลงใจได้แล้วว่าจะไปกี่คนไปกี่วันไปเมืองไหนก็มาลุยกันโลด!
ขอยกตัวอย่างทริปคร่าวๆดังนี้
ไป 2 คน 6 วัน 5 คืน
เมืองที่ไป โตเกียวและบริเวณโดยรอบ
** หมายเหตุ นี่เป็นทริปที่พักสบายปานกลาง เน้นเดินทางเร็วไม่ต้องต่อเครื่อง และเน้นที่เที่ยวหลักๆ ช้อปปิ้งพอประมาณ มีแช่ออนเซ็นแบบไม่ต้องค้าง หากไม่ต้องพักสบายและต่อเครื่องนานๆได้ ราคาจะถูกลงกว่านี้มาก**
ตางรางคร่าวๆ
เดินทางวันที่ 1 พค. 2014- 6 พค. 2014
วันที่ 1 พค. ออกเดินทางจาก Bangkok 6.30AM ถึง Narita 14.15PM --> เข้าโรงแรม (Ikebukuro) --> Asakusa --> Tokyo Sky Tree
วันที่ 2 พค. Tokyo Disneyland
วันที่ 3 พค. Oedo Onsen --> Odaiba
วันที่ 4 พค. Kamakura --> Yokohama
วันที่ 5 พค. Hakone
วันที่ 6 พค. Hotel Checkout --> Shopping --> ออกเดินทางไป Airport 15.00 PM --> เครื่องออกจาก Narita 18.50PM ถึง Bangkok 11.25PM
ค่าตั๋วเครื่องบิน Delta Airlines 19,920 บาท (จองล่วงหน้า 2 เดือน)
ค่าที่พัก 5 คืน 4,700 บาท ต่อคน พักในเครือของ Toyoko Inn ซึ่งมีหลายเมืองให้เลือกมากๆเป็นที่นิยมของคนไทย ที่เลือก Ikebukuro เพราะชอบเมืองนี้มีทุกอย่างห้างเรียงติดๆกัน เดินง่ายเดินได้ทั้งวัน พักที่นี่แล้วไม่จำเป็นต้องไปชินจูกุก็ได้ เพราะของจริงๆมันคือๆกันหมด ที่สำคัญสายรถไฟ Narita Express จากสนามบินมีจอดถึง ไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟแบกกระเป๋าให้วุ่นวาย สถานีก็เข้าใจง่ายกว่าชินจูกุและโตเกียวมาก)
ค่าเดินทาง
- Narita Express Package 5,500 Yen (ไปกลับและยังมีบัตรรถไฟ suica ให้ด้วยอีก 1,500 Yen ใช้สำหรับเที่ยววันแรกได้)
- Tokyo Disneyland 1,260 Yen (ไปกลับ)
- Oedo Onsen/Odaiba 1,500 Yen (ไปกลับ)
- Kamakura/Yokohama 1,640 Yen (ไปกลับ)
- Hakone 5,000 Yen (ไปกลับ)
รวม 14,900 Yen (ราว 4,470 บาท)
**ราคานี้เป็นเพียงแค่คร่าวๆเท่านั้นนะคะแต่จะไม่หนีไปมากกว่าที่เขียนไว้
ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ
- Tokyo Sky Tree 2,000 Yen
- Tokyo Disneyland 6,200 Yen
- Odeo Onsen 1,980 Yen
รวม 10,180 Yen (ราว 3,054 บาท)
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งทริป (ไม่รวมช้อปปิ้งกับค่าอาหารกลางวันและเย็น)
32,144 บาท ถ้าตีค่ากินวันละสองมื้อ (มื้อเช้าที่โรงแรม) มื้อละพันเยน ที่ต้องจ่ายประมาณ 10 มื้อ = 20,000 Yen (ราว 6,000 บาท) ถ้าเราจองล่วงหน้ากว่านี้หรือไปช่วง low season ราคาจะยิ่งถูกลงไปอีก
รอบหน้าจะมาต่อเรื่องการจองตั๋วและที่พักแบบละเอียดกว่านี้ค่ะ ^____^
อ่านเรื่องอื่นๆ
Friday, 28 February 2014
Wednesday, 12 February 2014
ไปญี่ปุ่นจะเที่ยวเองหรือไปกับทัวร์ดีนะ
มีคนเคยถามหลายคนว่าไปญี่ปุ่นครั้งแรกจะไปเองหรือไปกับทัวร์ดี สำหรับคนที่กำลังลังเลว่าจะไปแบบไหน ขอให้ตอบคำถามด้านล่างนี้ว่าทำได้มั้ย หากทำไม่ได้หรือมีความรู้สึกไม่อยากทำ เลือกไปทัวร์จะสบายกว่า เพราะมีไกด์คอยช่วยเหลือ แล้วเค้าก็จัดโปรแกรมให้เสร็จสรรพไม่ต้องมาคิดที่เที่ยวเอง
1. เดินไกลๆไม่มีปัญหา
ข้อนี้สำคัญสุดในการเที่ยวเอง ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ค่าแท็กซี่แพงมากแค่ขึ้นไปนั่งก็สองร้อยกว่าบาทแล้ว แม้กระทั่งรถไฟและรถเมล์ก็ไม่ได้ถูกมากนัก หากเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องการเดิน ไปทัวร์โลด เพราะทัวร์เค้ามีรถบัสจอดถึงที่ บางคนอยากพาพ่อแม่ไปเที่ยวเอง ต้องคำนึงถึงตรงนี้ด้วยว่าผู้สว.(สูงวัย)จะเดินไหวรึเปล่า
2. ชอบวางแผนการเที่ยวเอง
ข้อนี้ก็สำคัญรองลงมา เพราะจะเที่ยวเองหมายความว่าต้องจองโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน และศึกษาเส้นทางการขึ้นรถไฟรถเมล์เองทุกอย่าง หรือมีสมาชิกที่จะไปด้วยทำได้ หากเป็นคนไม่ชอบวุ่นวายก็ไปทัวร์โลด
3. พักในโรงแรมที่แคบๆได้
ย้ำว่าแคบมากๆ โดยเฉพาะการพักแบบ hostel หรือ guest house แม้กระทั่ง business hotel ก็แคบ แคบขนาดที่กระเป๋าเดินทางใหญ่ๆไม่สามารถกางออกบนพื้นได้ ต้องมาวางบนเตียงแทน บางห้องแค่พอหมุนตัวได้เท่านั้น (แต่ปัญหานี้จะหมดไปหากคุณมีงบมากพอที่จะพักโรงแรมดีๆ)
4. ไม่หวั่นที่จะลองถามทางแม้จะพูดญี่ปุ่นไม่ได้
ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าพูดอังกฤษไม่รู้เรื่อง ถึงแม้เดี๋ยวนี้จะดีขึ้นมากแล้ว แต่ในตจว.อย่าไปตั้งความหวัง
มากนัก หากพูดญี่ปุ่นไม่ได้อาจจะลำบาก แต่หากเป็นคนที่ไม่หวั่นเรื่องนี้ ก็ไม่มีปัญหาเพราะถ้าเรา
เตรียมการเดินทางไปดีๆ จะช่วยได้มาก
5. ทานอาหารญี่ปุ่น(แท้ๆ)ได้
การไปเที่ยวเองนั้นเราก็ต้องมีการเสี่ยงดวงเรื่องร้านอาหารว่ามันจะอร่อยหรือไม่ บางคนอาจไม่ชอบ ทานอาหารรสชาติญี่ปุ่นจริงๆ(ซึ่งรสชาติไม่เหมือนที่ขายในร้านฟูจินะจ๊ะ) บางทีเราเดินทางเหนื่อย ไม่อยากไปค้นหาร้าน หรือเราไปตจว.ที่มันเลือกมากไม่ได้ หรือหาร้านจากเน็ทมาแล้วแต่เดินวนหาไม่เจอสักที หรือร้านที่จะกินคนต่อแถวยาวมากกกกกกกก รอไม่ไหว เราก็ต้องมีเสี่ยงกันบางเป็นบางมื้อ กินง่ายอยู่ง่ายก็ไปเองโลด เพราะไปทัวร์บางทีเค้ามีเตรียมพริกน้ำปลาให้ (แต่ว่าเที่ยวเองก็ใช่ว่าจะเอาไปด้วยไม่ได้อะนะ แต่มันดูลำบากไปมั้ยที่ต้องมาพกอะไรแบบนี้ ทั้งๆที่ไปเที่ยวตปท.ทั้งที) แล้วร้านที่ทัวร์พาไปมักจะถูกปากคนไทยอยู่แล้ว
6.ชอบเรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติ
การไปเที่ยวเองนั้นบางทีเราอาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องดำเนินชีวิตแบบคนญี่ปุ่น เช่นการทานบะหมี่ หรือที่เรียกกันว่าราเม็ง คนญี่ปุ่นจะซูดเส้นเสียงดัง ซึ่งถือว่าเป็นมารยาทของเค้า เพราะยิ่งดังแสดงว่ายิ่งอร่อย ถ้าเราไปทานในร้านก็ควรทำตามเพราะถือว่าให้เกียรติเจ้าของร้าน หรือ การทานซูชิ ซึ่งคนญี่ปุ่นจะไม่คนวาซาบิกับโชยุโดยตรง การแช่ในบ่อน้ำร้อนหรือที่เรียกว่าออนเซ็น ก็จะห้ามเอาผ้าเช็ดตัวเข้าไปบริเวณที่แช่ ต้องถอดเสื้อผ้าหมดเท่านั้น การทานข้าวในร้านอาหารจะไม่มีการเรียกบริกรมาเก็บตังค์ เราต้องเอาบิลไปจ่ายที่แคชเชียร์เอง เป็นต้น การไปเที่ยวเองเราก็จะได้เรียนรู้สิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นความสนุกอย่างนึง
ไว้ตอนหน้าจะมาเขียนถึงงบประมาณในการเที่ยวต่อจ้า^^
อ่านเรื่องอื่นๆ
งบประมาณในการเที่ยวญี่ปุ่น
จองตั๋วเครื่องบินและโรงแรม
มารยาทในการเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
1. เดินไกลๆไม่มีปัญหา
ข้อนี้สำคัญสุดในการเที่ยวเอง ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ค่าแท็กซี่แพงมากแค่ขึ้นไปนั่งก็สองร้อยกว่าบาทแล้ว แม้กระทั่งรถไฟและรถเมล์ก็ไม่ได้ถูกมากนัก หากเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องการเดิน ไปทัวร์โลด เพราะทัวร์เค้ามีรถบัสจอดถึงที่ บางคนอยากพาพ่อแม่ไปเที่ยวเอง ต้องคำนึงถึงตรงนี้ด้วยว่าผู้สว.(สูงวัย)จะเดินไหวรึเปล่า
2. ชอบวางแผนการเที่ยวเอง
ข้อนี้ก็สำคัญรองลงมา เพราะจะเที่ยวเองหมายความว่าต้องจองโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน และศึกษาเส้นทางการขึ้นรถไฟรถเมล์เองทุกอย่าง หรือมีสมาชิกที่จะไปด้วยทำได้ หากเป็นคนไม่ชอบวุ่นวายก็ไปทัวร์โลด
3. พักในโรงแรมที่แคบๆได้
ย้ำว่าแคบมากๆ โดยเฉพาะการพักแบบ hostel หรือ guest house แม้กระทั่ง business hotel ก็แคบ แคบขนาดที่กระเป๋าเดินทางใหญ่ๆไม่สามารถกางออกบนพื้นได้ ต้องมาวางบนเตียงแทน บางห้องแค่พอหมุนตัวได้เท่านั้น (แต่ปัญหานี้จะหมดไปหากคุณมีงบมากพอที่จะพักโรงแรมดีๆ)
4. ไม่หวั่นที่จะลองถามทางแม้จะพูดญี่ปุ่นไม่ได้
ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าพูดอังกฤษไม่รู้เรื่อง ถึงแม้เดี๋ยวนี้จะดีขึ้นมากแล้ว แต่ในตจว.อย่าไปตั้งความหวัง
มากนัก หากพูดญี่ปุ่นไม่ได้อาจจะลำบาก แต่หากเป็นคนที่ไม่หวั่นเรื่องนี้ ก็ไม่มีปัญหาเพราะถ้าเรา
เตรียมการเดินทางไปดีๆ จะช่วยได้มาก
5. ทานอาหารญี่ปุ่น(แท้ๆ)ได้
การไปเที่ยวเองนั้นเราก็ต้องมีการเสี่ยงดวงเรื่องร้านอาหารว่ามันจะอร่อยหรือไม่ บางคนอาจไม่ชอบ ทานอาหารรสชาติญี่ปุ่นจริงๆ(ซึ่งรสชาติไม่เหมือนที่ขายในร้านฟูจินะจ๊ะ) บางทีเราเดินทางเหนื่อย ไม่อยากไปค้นหาร้าน หรือเราไปตจว.ที่มันเลือกมากไม่ได้ หรือหาร้านจากเน็ทมาแล้วแต่เดินวนหาไม่เจอสักที หรือร้านที่จะกินคนต่อแถวยาวมากกกกกกกก รอไม่ไหว เราก็ต้องมีเสี่ยงกันบางเป็นบางมื้อ กินง่ายอยู่ง่ายก็ไปเองโลด เพราะไปทัวร์บางทีเค้ามีเตรียมพริกน้ำปลาให้ (แต่ว่าเที่ยวเองก็ใช่ว่าจะเอาไปด้วยไม่ได้อะนะ แต่มันดูลำบากไปมั้ยที่ต้องมาพกอะไรแบบนี้ ทั้งๆที่ไปเที่ยวตปท.ทั้งที) แล้วร้านที่ทัวร์พาไปมักจะถูกปากคนไทยอยู่แล้ว
6.ชอบเรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติ
การไปเที่ยวเองนั้นบางทีเราอาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องดำเนินชีวิตแบบคนญี่ปุ่น เช่นการทานบะหมี่ หรือที่เรียกกันว่าราเม็ง คนญี่ปุ่นจะซูดเส้นเสียงดัง ซึ่งถือว่าเป็นมารยาทของเค้า เพราะยิ่งดังแสดงว่ายิ่งอร่อย ถ้าเราไปทานในร้านก็ควรทำตามเพราะถือว่าให้เกียรติเจ้าของร้าน หรือ การทานซูชิ ซึ่งคนญี่ปุ่นจะไม่คนวาซาบิกับโชยุโดยตรง การแช่ในบ่อน้ำร้อนหรือที่เรียกว่าออนเซ็น ก็จะห้ามเอาผ้าเช็ดตัวเข้าไปบริเวณที่แช่ ต้องถอดเสื้อผ้าหมดเท่านั้น การทานข้าวในร้านอาหารจะไม่มีการเรียกบริกรมาเก็บตังค์ เราต้องเอาบิลไปจ่ายที่แคชเชียร์เอง เป็นต้น การไปเที่ยวเองเราก็จะได้เรียนรู้สิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นความสนุกอย่างนึง
ไว้ตอนหน้าจะมาเขียนถึงงบประมาณในการเที่ยวต่อจ้า^^
อ่านเรื่องอื่นๆ
งบประมาณในการเที่ยวญี่ปุ่น
จองตั๋วเครื่องบินและโรงแรม
มารยาทในการเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
Subscribe to:
Posts (Atom)