Monday 7 April 2014

มารยาทในการเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

ตั้งแต่คนไทยไม่ต้องใช้วีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นก็มีคนแห่แหนกันไปเที่ยวจนร้านบางร้านหรือสถานที่บางที่ต้องมีป้ายภาษาไทยกำกับหรือประกาศกันเป็นภาษาไทยกันเลยทีเดียว ควรจะดีใจมั้ยไม่แน่ใจ เพราะอะไรที่มันมากเกินไปมักจะส่งผลไม่ดีเสมอ และได้เห็นได้ยินทั้งจากเพื่อนๆที่อยู่ญี่ปุ่นและคนที่ไปเที่ยวว่าทัวร์ไทยได้ทำพิษเข้าแล้ว เลยอยากจะบอกถึงมารยาทหลักๆที่ควรทำเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการก็ดี คิดว่าเราเป็นคนต่างชาติทำอะไรไปไม่มีใครรู้ พูดเสียงดังไปไม่มีใครเข้าใจ แต่เชื่อเถอะว่าตอนนี้คนไทยได้เป็นหนึ่งในชาวต่างชาติที่คนญี่ปุ่นรู้จักกันมากขึ้นแล้ว ทำอะไรไปเค้าจะเหมารวมทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นเรามาร่วมด้วยช่วยกัน อย่าให้เค้ามองชาติเราไม่ดี เหมือนเรามองทัวร์จีนที่มาเที่ยวบ้านเรากันเลยนะคะ


มารยาทในการเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

1. ขึ้นรถไฟรถเมล์ห้ามคุยโทรศัพท์ ไม่ควรรับประทานอาหาร ไม่ส่งเสียงดัง ไม่นั่งแต่งหน้า ไม่ควรนั่งตรงที่สำหรับคนเจ็บคนชราและคนท้อง
การขึ้นรถโดยสารต่างๆที่ญี่ปุ่นก็จะคล้ายๆกับประเทศไทยแต่จะมาต่างก็ตรงที่ความมีระเบียบในการขึ้นที่ญี่ปุ่นมีมากกว่า ที่ห้ามกันชัดเจนและไม่ควรทำอย่างแรงคือการคุยโทรศัพท์ ควรปรับโหมดโทรศัพท์ให้เป็นระบบสั่น หากใครลืมปิดมีเสียงดังขึ้นมาก็จะถูกเป็นเป้าสายตา และอาจถูกเตือนจากเจ้าหน้าที่ได้ แถมอีกหน่อยกับการลุกให้นั่ง หากใครเคยขึ้นรถไฟที่ญี่ปุ่นจะสังเกตุได้ว่าผู้ชายอกสามซอกจะแย่งที่นั่งอย่างรวดเร็วและนั่งกันสลอน ไม่สนใจว่าผู้หญิงจะแบกของหนักหรือเด็กประถมจะยืนอยู่ตรงหน้า ก็อย่าได้แปลกใจไปเพราะประเทศนี้ผู้ชายเป็นใหญ่(ถึงสมัยนี้จะดีขึ้นมากแล้ว)เค้าว่าผู้ชายทำงานหนักให้เค้านั่งก็ไม่แปลกอะไร(งานบ้านกับเลี้ยงลูกก็เหนื่อยนะคะ) อีกอย่างนึงก็คือหากเห็นเด็กๆขึ้นรถไฟมา ไม่จำเป็นต้องลุกให้นั่งเพราะเด็กประเทศนี้ดูแลตัวเองได้ดีมาก (คือมันหยิ่ง) ลุกให้เค้าจะไม่นั่งเอา เคยเห็นคนเสียฟอร์มมาแล้ว ลุกแล้วก็ต้องลุกเลย เด็กไม่ยอมนั่ง ผู้ชายข้างๆนั่งแทนซะงั้น555 ส่วนที่นั่งสำหรับคนเจ็บคนชราและคนท้องนั้นจริงๆสามารถนั่งได้(เพราะญี่ปุ่นก็นั่ง)แต่หากมีคนที่มีลักษณะดังป้ายตรงที่นั่งก็ควรลุกทันที มารยาทอื่นๆที่ควรระวังก็คืออย่าเพิ่งรีบออกตัวล่วงหน้าก่อนที่จะถึงสถานี ไม่ต้องกลัวว่าไม่ได้ลง เพราะที่ญี่ปุ่นเค้ามีมารยาทในการหลบให้คนออก แหมนึกแล้วก็อย่าให้บ้านเราเป็นได้อย่างเค้าเร็วๆ

2. ขึ้นลงบันไดเลื่อนให้ยืนชิดฝั่งเดียว (คันโตชิดซ้าย คันไซชิดขวา)
ฝั่งคันโต คือฝั่งทางด้านโตเกียวจะยืนชิดซ้าย ส่วนฝั่งคันไซ คือฝั่งด้าน โอซาก้า จะยืนชิดขวา
หากไม่หลบอาจมีเสียงเตือนจากด้านหลังแบบแข็งๆได้ว่า  すみません(สึมิมาเซ็ง) กูเซ็งที่มรึงไม่หลบนะ 555 ล้อเล่น แปลว่า ขอโทษนะ
จริงๆแล้วการยืนชิดด้านไหนนั้นมีที่มา คือโตเกียวสมัยก่อนเป็นเมืองที่มีซามูไรอยู่เยอะ ซามูไรมักเดินชิดซ้ายเพื่อให้ชักดาบได้สะดวก ส่วนโอซาก้าคือเมืองของพ่อค้า มักมีของมีค่าที่กระเป๋าด้านขวาจึงเดินชิดขวาเพื่อรักษาของมีค่าไว้ไม่ให้โดยขโมย (ขอบคุณข้อมูลจากกูเกิ้ล)

3. การแช่ออนเซ็นส่วนใหญ่ต้องถอดหมด และห้ามคนมีรอยสักลงแช่
ที่ว่าต้องถอดหมดส่วนใหญ่เพราะเริ่มมีบางที่ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะและเป็นบ่อที่อยู่ทามกลางธรรมชาติ จึงอาจอนุญาตให้พันผ้าขนหนูผืนใหญ่ได้ แต่โดยรวมแล้วยังต้องถอดเสื้อผ้าหมด อนุญาตให้เอาผ้าขนหนูผืนเล็กเข้าไปได้เท่านั้น ส่วนคนที่มีรอยสัก หากเล็กๆอาจจะพอซ่อนได้ แต่หากใหญ่มากๆอาจจะโดนเชิญออกเอาได้ ที่มีข้อห้ามเพราะคนที่สักที่ญี่ปุ่นจะเป็นพวกยากูซ่าซึ่งถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลซึ่งจะทำให้คนอื่นกลัวและไม่กล้าเข้าไปใช้บริการ สำหรับคนที่มีรอยสักและอยากแช่บ่อน้ำร้อนแนะนำให้เช่าห้องแบบที่มีบ่อส่วนตัวในห้อง ถ้าแบบนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน

4. การถ่ายรูปร้านค้าต่างๆควรขออนุญาตทางร้านก่อน
จริงๆจะถือว่าห้ามมั้ยก็ไม่เชิง แต่การไปยืนจ่อกล้องในร้านอาจจะโดนเตือนจากเจ้าของร้านเอาได้ หากอยากถ่ายเพื่อนำไปเผื่อแพร่ควรขออนุญาตก่อน รวมไปถึงการถ่ายภาพบุคคล เช่นเห็นเด็กๆน่ารักอยากถ่ายรูป ก็ควรขออนุญาตผู้ปกครองเค้าก่อน 

5. แยกขยะก่อนทิ้ง
ถือว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศสุดยอดการแยกขยะเลยก็ว่าได้ บางที่แยกทั้งเศษอาหาร กระดาษ พลาสติก ขวดแก้ว กระป๋อง สารพัด หากเราเจอถังขยะที่ระบุให้แยกขยะก็ช่วยกันทำตามด้วยนะคะ เค้าจะไม่มาว่าได้ว่าประเทศเราแยกขยะกันไม่เป็น ตอนทิ้งไม่มีใครรู้ แต่เราก็รู้อยู่แก่ใจตัวเองนะคะ

6. ไม่ควรเดินไปกินไป
หากลองสังเกตุดูดีๆ คนญี่ปุ่นจะไม่เดินไปกินไป อาจเป็นเพราะประเทศเค้าไม่มีร้านค้าแบบรถเข็นแบบบ้านเรา จะมีอย่างมากก็ลุงขายมันเผา ซึ่งคนญี่ปุ่นเมื่อซื้อของกินตามร้านข้างทางก็จะหาที่นั่งหรือยืนรัปทานให้เสร็จตรงนั้นเลยค่ะ หากเราไปซื้อของทานข้างทางก็ทานให้เสร็จเลยแล้วค่อยเดินทางต่อกันดีกว่านะคะ เวลาทานเสร็จจะทิ้งก็ง่ายเพราะอยู่ตรงร้านอยู่แล้ว หาถังขยะตามข้างทางที่ญี่ปุ่นนี่ก็ไม่ง่ายนะคะ รวมถึงการเดินไปสูบบุหรี่ก็ไม่ควรเพราะถือเป็นการรบกวนคนอื่น

7. ควรต่อแถวซื้อของอย่าแซงคิว
นี่ก็เป็นวัฒนธรรมอย่างนึงที่ขอซูฮกให้ประเทศนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็เข้าคิวทุกอย่าง เข้าห้องน้ำยังเข้าคิวเป็นระเบียบ แถมยังมีความอดทนสูงมาก รอนานแค่ไหนก็รอ สมัยเรียนที่ญี่ปุ่นเคยทำงานพิเศษร้านอาหาร มีอยู่วันนึงคนแน่นมากลูกค้าถามรอนานแค่ไหนเราบอก 30 นาที เค้าบอกว่าโอเคก็ไม่นานนะ (แต่คือตรูเหนื่อยแล้วไงยังจะมาต่อคิวกินอะไรกันนักหนา คิดในใจอะนะ) เป็นเราคงเปลี่ยนไปกินร้านอื่นแล้ว ขี้เกียจรอ อีกอย่างที่ไม่ควรทำคือการแซงคิว ถือเป็นการเสียมารยาทมากๆอย่าทำเลยนะคะ เห็นใจคนอื่นที่เค้าต้องเข้าคิวกัน เราไปลัดคิวมันทุเรศค่ะบอกตรงๆ

8. ที่ญี่ปุ่นไม่มีการต่อราคาสินค้า
บ้านเราต่อกันจนชิน อาจจะชินว่าซื้อแล้วขอต่อหน่อยเถอะ หรือซื้อเยอะแถมได้มั้ย คือประเทศญี่ปุ่นไม่มีธรรมเนียมการต่อรองราคาเลยค่ะ ถ้าไปช้อปก็อย่าเผลอไปต่อเค้าเลยนะคะ ยิ่งเป็นต่างจังหวัดไปต่อเผลอๆคุณป้าอาจจะทำหน้างงๆได้ว่าเราต้องการอะไร ยกเว้นในบางพื้นที่ ที่อาจต่อได้บ้างเพราะชาวต่างชาติเยอะเช่น Akihabara หรือ Ueno 

9. ไม่จำเป็นต้องทิปพนักงาน
ที่ญี่ปุ่นมักจะรวมค่าบริการ (service charge) เข้าไปอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทิปเพิ่มค่ะ ให้ไปเผลอๆจะได้คืนมาเอาด้วยนะ

10. เข้าร้านอาหารไม่ควรเรียกบริกรมาเช็คบิล ให้นำบิลไปจ่ายที่แคชเชียร์เมื่อทานเสร็จ
หากไม่ใช่ร้านที่ต้องจ่ายก่อน เวลาบริกรมาเสริฟ์อาหารเสร็จแล้วเค้าจะเอาบิลมาวางให้ที่โต๊ะ หรือให้สังเกตุดูจะมีห้อยอยู่บริเวณโต๊ะที่เรานั่งสักจุด ให้เรานำบิลนั้นไปจ่ายที่เคาเตอร์จ่ายเงินได้เลยค่ะ หากไปเรียกเค้ามาเก็บตังค์เค้าก็จะชี้บอกให้เราไปจ่ายที่แคชเชียร์อยู่ดีค่ะ

No comments:

Post a Comment