Friday 18 October 2013

เรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่ออะไร

แต่ละคนมีจุดประสงค์ในการเรียนภาษาญี่ปุ่นไม่เหมือนกัน ซึ่งที่เจอมาแบ่งออกได้ประมาณนี้

1. เพื่อ การ์ตูน เกมส์ ดารา (แนวโอตาคุ)
2. เพื่อ ทำงานในบริษัทญี่ปุ่น
3. เพื่อ คุยกับลูกค้าญี่ปุ่น (เปิดร้านค้า)
4. เพื่อ คุยกับแฟน คุยกับพ่อแม่ (กรณีลูกครึ่ง)
5. เพื่อ ไปเที่ยว
6. เพื่อ ความรู้เพิ่มเติม
7. เพื่อ เรียนต่อ
8. เพื่อ อะไรก็ไม่รู้แต่อยาก (มีคนเคยบอกแบบนี้จริงๆ)
(ใครไม่เหมือนในนี้บอกหน่อยจะได้เพิ่มเติม)

เวลามาเรียนในโรงเรียนสอนภาษา ส่วนใหญ่เวลามาสมัครเรียนก็มักจะลงตามคอร์สพื้นฐาน คือ เริ่มจากเรียนการเขียนอักษร และใช้ตำราเรียน มินนะโนะนิฮงโกะ แล้วก็เรียนไปเรื่อยๆจนถึงขั้นกลางขั้นสูง ซึ่งมันก็ดูเหมาะสมดีกับจุดประสงค์เกือบทุกประเภท เน้นว่าเกือบ เพราะที่เจอมากลุ่มที่มีปัญหาที่ตามเรียนไม่ทันมากที่สุดคือ เพื่อคุยกับแฟน (ไม่ใช่ทุกคนนะจ๊ะ ไม่ได้เหมารวมนะ) ดังนั้นก่อนจะสมัครเรียนไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ควรสอบถามถึงรายละเอียดคอร์สให้แน่ใจก่อน บางทีเจ้าหน้าที่เค้าอาจไม่ได้เข้าใจว่าเราอยากเรียนแบบไหน ถ้าบอกแค่ว่าอยากเรียนภาษาญี่ปุ่น โดยมากก็จะจัดให้ลงคอร์สปกติกันนี่แล แต่บางโรงเรียนจะมีคอร์สทางเลือกอื่นๆ เช่น เรียนแต่สนทนาอย่างเดียว ก็มี (แต่คอร์สแบบนี้ไม่เหมาะกับการต่อยอดการเรียนนะจ๊ะ)  บางคนมีเวลาตอนกลางวันเรียนคอร์สเร่งรัดได้ แต่ไม่รู้ว่ามีคอร์สนั้น ก็ทำให้เสียเวลาและเสียเงินไปในช่วงแรก เพราะฉะนั้นควรปรึกษากับเจ้าหน้าที่และศึกษารายละเอียดของคอร์สก่อนว่าใช่แบบที่ต้องการ ไม่ใช่ไปสมัครแล้วเค้าบอกอะไรก็ลงตามนั้น โอเค้?

สอบวัดระดับจำเป็นมั้ย?
การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น  日本語能力試験 (Japanese Language Proficiency Test - JLPT) จะแบ่งออกเป็น 5 ระดับ คือ N1, N2, N3, N4, N5 ซึ่งระดับ N1 จะสูงสุด N5 ต่ำสุด ซึ่งจำแนกการใช้ได้ดังนี้ (ตามสไตล์คนเขียนนะ หากใครไม่เห็นด้วยต้องขออภัย)

N1 เทียบเท่าคนญี่ปุ่น (เค้าว่างั้น ว่าแต่เค้าคือใคร555) แปลหนังสือ ล่าม ได้หม้ด ระดับเทพ
N2 เป็นล่าม เป็นครู ทำงานบริษัทได้ เป็นระดับที่เพียงพอ และควรมีหากคุณเลิฟเจแปนนีส
N3 เป็นล่ามแบบงานไม่ยากมากได้ เป็นครูมัธยมได้ ไกด์ก็ได้อยู่ เรียกว่าเป็นระดับที่มีความรู้ระดับกลางๆพอจะหยิบจับอะไรที่เป็นภาษาญี่ปุ่นได้
N4 พอไปเที่ยวสื่อสารได้ดีระดับนึง ทำงานบริษัทยังไม่พอนะ เป็นครูมัธยมน้อยไปนิด เดี๋ยวนี้เด็กๆเค้าเก่ง
N5 ทำอะไรได้มั่งหว่า...อ่อ ก็พอสื่อสารแบบง่ายๆได้ (เน้นว่าง่ายๆเช่น ทักทาย ซื้อของ ถามทาง)

เวลาจะสอบไม่จำเป็นต้องไล่สอบที่ละระดับ จะสอบ N1 เลยก็ได้หากมั่นใจ555
รายละเอียดการสอบวัดระดับ

ถ้าอยากเรียนแบบได้จริงๆถึงพริกถึงขิง แนะนำให้บินไปประเทศญี่ปุ่นเลย ไม่มีที่ไหนจะดีไปกว่าประเทศเจ้าของภาษาอีกแล้ว จริงอยู่ที่ว่าบางคนไม่ต้องไปเรียนถึงญี่ปุ่นก็พูดได้ สอบวัดระดับ N1, N2 ผ่านได้ เป็นเรื่องจริง ทำได้นะ และนับถือคนที่ทำได้มากๆเพราะต้องอ่านหนังสืออย่างเยอะ แต่ความเห็นส่วนตัวคือการสอบผ่าน N1, N2 ได้ ไม่ได้หมายความว่าจะพูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่องและสำเนียงดี เพราะมันไม่ได้สอบพูด การไปสัมผัสประเทศญี่ปุ่นโดยตรงจะทำให้คุณได้เรียนรู้สิ่งที่มากกว่าภาษา และยังทำให้ใช้ภาษาได้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษาอีกด้วย ลองถามคนที่รู้จักที่เป็นล่ามดูบางคนไม่มีใบสอบวัดระดับด้วยซ้ำ ใบสอบวัดระดับเป็นเพียงแค่ใบเบิกทางเหมือนปริญญา ซึ่งมีดีกว่าไม่มีอยู่แล้ว แต่ท้ายสุดก็ต้องวัดกันที่ความสามารถในการใช้  ดังนั้นควรถามตัวเองว่าอยากเรียนเพื่ออะไรก่อน มีแฟนเป็นคนญี่ปุ่นไม่ต้องมีใบสอบวัดระดับก็ได้ เวลามาเรียนก็นำไปปรับใช้ให้เข้ากับจุดประสงค์ของตัวเอง เพราะเวลาเซนเซสอน เค้าต้องสอนให้ทุกคนได้ บางอย่างอาจจะยาก และไม่ได้ใช้ ก็ไม่เป็นไร เราก็จำแต่สิ่งที่เราเอาไปใช้ได้ อย่าไปท้อว่าเรียนยากจัง จำไม่ได้ ไม่เข้าใจ ทุกอย่างเป็นไปได้ถ้ามีความตั้งใจนะจ๊ะ^^

อ่านเรื่องอื่นๆ
กว่าจะใช้ภาษาญี่ปุ่นได้จนถึงวันนี้
รับงานล่ามเฉพาะกิจ
เปรียบเทียบราคาและคอร์สเรียนภาษาญีปุ่นของโรงเรียนต่างๆ
เรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างไรให้เป็นเร็ว

No comments:

Post a Comment