Wednesday 7 December 2016

ทำยังไงถึงจะพูดได้เก่งๆ?

ทำยังไงถึงจะพูดได้เก่งๆ?
เรียนจบเล่มนี้แล้วจะพอพูดได้มั้ย?
ต้องเรียนนานแต่ไหนถึงจะพูดได้?
เป็นคำถามที่มักจะถูกถามจากนร.บ่อยๆเวลาเริ่มเรียน
มันยากที่จะบอกว่าต้องเรียนสักกี่ปีถึงจะพูดได้
บางคนเรียนเป็นปีพูดยังไม่ได้เลยก็มี
แต่บางคนไม่เคยเรียนเลยแต่ก็พูดสื่อสารได้
แล้วเค้าทำยังไงกันละ?
ก็แค่ต้องฝึกพูดเยอะๆ!
พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพูด
สังเกตจากคนที่พูดเก่งๆมักจะมีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่น
หรืออยู่ในสังคมที่ได้ยินภาษาญี่ปุ่น จนมันซึมซับเข้าไปเอง
บางคนเรียนรู้จากการดูละครบ้าง
ดูการ์ตูนบ้าง แล้วก็จำเอามาหัดพูด
แต่การดูอย่างเดียวจะพัฒนาได้แต่การฟัง
ยังไงซะอยากพูดได้ก็ต้องมีคนคุยด้วย
การหาเพื่อนญี่ปุ่นสักคนเอาไว้ฝึกพูดคือสิ่งที่ดีที่สุด
แต่ต้องบอกเพื่อนนะว่าถ้าชั้นพูดผิดเธอแก้ให้หน่อย
บางทีคนญี่ปุ่นบางคนเค้าอาจจะพอเข้าใจที่เราพูด
แล้วก็คุยต่อเลย เราก็จะไม่รู้ว่าที่เราพูดไปมันผิดตรงไหน
ถ้าเพื่อนเราไม่ให้ความร่วมมือที่ดี
ก็ลองหาเพื่อนใหม่ๆ(พูดเหมือนหาง่ายเนอะ555)
หรือไม่ก็ต้องคอยถามว่าที่พูดเนี่ยถูกมั้ย
ถ้าจะพูดแบบนี้ต้องพูดยังไง
แล้วมีวิธีหาเพื่อนคนญี่ปุ่นมั้ย
...อืม จากประสบการณ์ของตัวเอง
การหาเพื่อนญี่ปุ่นที่ไทยนั้น เป็นอะไรที่ยากมากกกกกก
หากเราไม่ได้เข้าไปอยู่ในสังคมเดียวกับเค้า
ถ้าอยากหาเพือนเป็นคนญี่ปุ่น ลองดูตามโรงเรียนต่างๆ
บางที่เค้าจะมีกิจกรรมให้ทำร่วมกับคนญี่ปุ่น
เราก็ใช้ตรงนั้นต่อยอดไป
ไม่งั้นก็ไปลงเรียนตามโรงเรียนเลย
อย่างน้อยต้องได้เจอเซนเซคนญี่ปุ่นพูดคุยกันบ้างแหละ
คนที่มีทุนทรัพย์หน่อยก็บินไปเรียนที่ญี่ปุ่นเลย
รับรองว่าได้พูดสมใจ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมัน"ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง"
ของแบบนี้ต่อให้ขยันมาเรียนแค่ไหนไปเรียนจนถึงที่ญี่ปุ่นก็แล้ว
แต่ถ้าไม่ยอมเปิดปากลองพูด ก็ไม่มีทางที่จะเก่งได้นะจ๊ะ

Monday 28 November 2016

"วัดใจ" ว่าจะเรียนได้มั้ย ภาษาญี่ปุ่นเนี่ย!

สำหรับคนที่กำลังจะไปสมัครเรียนภาษาญี่ปุ่นตามสถาบันต่างๆ
จากประสบการณ์ที่ได้สอนคอร์สเริ่มต้นในหลายๆที่
จะสังเกตุว่ามีนร.หลายคนเลยที่ยังไม่รู้ว่า
ตัวเองได้สมัครเข้ามาเรียนภาษาญี่ปุ่น "แบบไหน"
จึงอยากมาเล่าให้เข้าใจก่อนจะไปสมัครเรียนกันค่ะ
โดยปกติตามสถาบันสอนภาษาทั่วไป
จะเริ่มจากการสอนการอ่านเขียน
อักษรฮิรางานะ 46 ตัว และ คาตาคานะ 46 ตัว
แล้วจึงจะเริ่มเข้าสู่บทเรียน ซึ่งระหว่างเรียนตัวอักษร
ก็อาจจะมีการแทรกสำนวนภาษาญี่ปุ่นบ้าง การนับเลขบ้าง
ช่วงเรียนตัวอักษรนี่แหละจะเป็นช่วง "วัดใจ"
ว่าจะเรียนต่อไหวมั้ย หรือจะคาบเดียวจอด
เพราะจะต้องอ่านและเขียนตัวอักษรทั้งหมด 92 ตัวให้ได้
ภายในระยะเวลาประมาณ 18-20 ชม.
(ขึ่นอยู่ว่าเรียนอาทิตย์ละกี่ชม.ก็หารไปเป็นจำนวนสัปดาห์นะคะ)
ถ้าเป็นคนที่เป็นติ่งดาราหรือโอตาคุ แบบบ้าเกมส์ บ้าการ์ตูนญี่ปุ่น
เวลาแค่นี้ถือว่าชิวๆ เพราะบางคนอ่านเขียนเป็นก่อนมาเริ่มด้วยซ้ำไป
แต่สำหรับคนที่ต้องเรียนเพราะต้องทำงานหรือ มีสามีเป็นคนญี่ปุ่น
จะรู้สึกว่ามันยากมากๆๆๆๆๆ แล้วยิ่งถ้า...
แจ็กพ็อตเจอห้องที่ประชากรส่วนมากอ่านเขียนได้เกือบหมดแล้วนี่
บางคนอาจจะถึงกับท้อแล้วไม่มาเรียนอีกเลย TT (ธ่อ..ครูคิดถึงนะ)
ดังนั้น! ก่อนจะจ่ายเงินสมัครเรียน
ควรทำความเข้าใจก่อนว่าเรากำลังมาเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น
ที่จะได้สกิลแบบฟังพูดอ่านเขียนครบถ้วนนะ
ไม่ได้มาเรียนแบบเอาแค่พอพูดได้
หากใครที่คิดว่าตัวเองไม่ได้จำเป็นจะต้องอ่านเขียนได้
หรือรู้สึกว่ามันยากเกินไปที่จะจำตัวอักษรญี่ปุ่น
แบบรู้สึกว่าแค่พูดก็ลำบากละ อะไร อะๆอิๆอุๆ ยาวโพด 555
ก็ควรเรียนแบบพูดอย่างเดียวไปเลย
ซึ่งสถาบันส่วนใหญ่ก็จะมีเปิดสอนเป็นคอร์ส
ที่เรียนด้วยอักษร โรมาจิ หรือบ้านเราเรียกภาษาคาราโอเกะ
แต่เดี๋ยวๆๆก่อนนะ!
ข้อควรระวังในการเรียนแบบอักษรโรมาจิคือ
จะไม่สามารถต่อยอดไปขั้นกลางได้
จะได้แค่ไวยกรณ์ขั้นต้น พอจะสื่อสารได้ระดับนึง
ซึ่งจากที่พบมามีหลายคนที่เริ่มจากการเรียนโรมาจิ
แล้วก็กลับมาเรียนแบบอักษรญี่ปุ่น
เพราะมันสามารถต่อยอดไปได้ไกลกว่า
แล้วก็มีคนที่แฮ้ปปี้เรียนเพื่อเอาไปพูดตอนไปเที่ยวได้เกร๋ๆพอละ
สรุปคือ
ถ้าจำเป็นต้องใช้ ต้องไปเรียนต่อ ต้องไปทำงาน
ต้องเล่นเกมส์ ต้องดูรายการทีวีให้รู้เรื่องให้ได้
เรียนแบบตัวอักษรฟูลคอร์สโลดเลยจ้า
อ่านมาเองล่วงหน้าเลยยิ่งดี
ถ้าแค่อยากจะลองเรียนดูหรือเป็นแม่บ้าน
ไม่ชอบความยุ่งยากในการอ่านอักษร
ให้เริ่มเรียนแบบโรมาจิดูว่ามันจะโอเคมั้ย
เราพอจะไปได้มั้ยกับภาษาญี่ปุ่น
ดูแล้วไปไหวก็ค่อยมาลงคอร์สตัวอักษรยังไม่สาย
มีอีกหนึ่งทางที่แสนจะประหยัดแต่ต้องอาศัยความพยายาม
เปิดอินเตอร์เน็ทหัดคัดหัดเขียนอักษรเองให้เป็นก่อน
มีเว็ปเยอะแยะมากมายที่สอนให้อ่านเขียนได้
ดูว่าเราพอจะไปได้มั้ยแล้วค่อยมาสมัครเรียนก็ดีนะ